แหล่งเช็คอินเมืองสกล
แหล่งเช็คอินเมืองสกล พูดถึงสกลนคร หลายคนอาจจะนึกกันแทบไม่ออกเลยละว่ามีที่ไหนให้เที่ยวหรือมีอะไรให้ทำ ถ้ากำลังคิดว่าก็คงมีแค่วัดวาอารามที่ถือเป็นหมุดหมายหลัก ๆ
ส่วนใหญ่ของภาคอีสานนั่นละน่า โนวววจ้า คิดใหม่ได้เลย เพราะเมืองสกลฯ น่ะ มีที่ชิค ๆ คูล ๆ ให้แวะเที่ยวแวะดูกันอยู่ไม่ใช่น้อยเลยเด้อ ยิ่งถ้าใครเป็นสายช้อปนะ
ขอบอกว่าของน่าซื้อเพียบ อาจทำเอากระเป๋าเบาได้ง่าย ๆ แบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ

วัดพระธาตุเชิงชุม
มาเมืองสกลฯ ขอบอกว่าต้องได้กราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมกันเด้อ เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองสกลนครมานานแสนนาน
โดยมีความเชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะต้องเสด็จมาประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่วัดแห่งนี้ ตัวเจดีย์เป็นสีขาวไม่มีลวดลาย สูง 24 เมตร ด้านบนเป็นยอดฉัตรทองคำ
น้ำหนัก 247 บาท สร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ อันได้แก่ พระกกุสันทะ พระโกนาคม พระกัสสะปะ และพระโคดม
(หรือพระศรีอารียเมตตรัย พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เอาไว้ ด้านในโบสถ์ยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระองค์แสน ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองสกลนคร ที่ว่ากันว่าถ้าได้มากราบ
จะเกิดสิริมงคลมีเงินหมื่นเงินแสนตามชื่อท่านนั้นเองนะ เอ้า สาาาธุ
พญาเต่างอย
ใครเคยฟังเพลงดังแห่งยุคที่เจ๊จินฯ ร้องเอาไว้ มั่นใจว่าต้องคุ้นเคยกับชื่อพญาเต่างอยกันแน่นอน จริงๆ แล้วเต่างอยเป็นชื่ออำเภอที่มีความเป็นมาในตำนานกว่า 400 ปี
โดยสมัยก่อนบริเวณนี้มีเต่าอาศัยอยู่มากมาย เต่าจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอนี้มาจนถึงปัจจุบัน และนั่นเป็นที่มาของการสร้างรูปปั้นพญาเต่างอย
ที่ลายด้านบนกระดองเต่ามีการปั้นเป็นรูปพระเกจิชื่อดังเอาไว้มากมาย บนตัวเต่ามีรูปดอกบัวปั้นซึ่งบรรจุเครื่องรางของขลังเอาไว้อีกเพียบ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในแต่ละวันจะเห็น
ผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภกันอยู่ไม่ขาดสาย ใครอยากได้เลขเด็ดหรือโชคดี มีโอกาสก็แวะไปเด้ออออ
วัดถ้ำผาแด่น
อีกหนึ่งวัดต้องห้ามพลาดของเมืองสกลฯ ที่มีผู้คนแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ทั้งกราบไหว้เคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีประดิษฐานอยู่มากมาย แถมวัดนี้ก็ยังเคยถูกใช้เป็น
ที่จำพรรษาของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายรูป นอกจากเรื่องของสายมูฯ แล้วนะ ขอบอกว่าวัดนี้ยังมีรูปสลักหินขนาดใหญ่อีกหลายจุด ซึ่งสวยงามเว่อร์วังอลังการน่าตื่นตาตื่นใจ
ม้ากกกก ชมรูปสลักหินเรียบร้อยก็ยังแวะชมวิวมุมสูงแบบแจ่ม ๆ ของสกลนครได้ด้วยนะ
กับทิวทัศน์พาโนรามา 180 องศา ที่จะมองไกลไปเห็นบึงหนองหานและตัวเมืองสกลนคร
กันได้แบบสุดสายตา ไปน่า พลาดแล้วจะเสียใจนะเอ้า
อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ
ถ้าแวะไปบึงหนองหาน อย่าพลาดการแวะเข้าไปเที่ยวที่นี่ด้วยนะ เพราะอยู่ตรงข้ามกันพอดิบพอดี จากเดิมซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่รวบรวมบัวสายพันธุ์ต่าง ๆ
เอาไว้เพื่อการค้นคว้าศึกษา ก็ถือว่ามีผลพลอยได้จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของชาวสกลนครไปซะงั้น ก็ใครจะไม่อยากไปเที่ยวล่ะ
เพราะนอกจากจะเป็นอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยกินพื้นที่ถึง 10 ไร่แล้วนะ เค้ายังอุตส่าห์สร้างสะพานไม้สีแดงสดเอาไว้ให้เดินเล่นกันได้กลางบึงบัวอีกด้วย
ถ้าเป็นช่วงแดดร่มลมตกลมพัดเย็นสบายในช่วงเย็น ๆ นะ หูยยย แค่นึกภาพตามก็โรแมนติกแล้วอ่ะ ว่าไม่ได้!!
ลองทำผ้าย้อมครามฝีมือตัวเอง ที่ร้าน Kramsakon
บอกอีกครั้งเผื่อใครยังไม่รู้ สกลนครเนี่ยเค้าถือว่าเป็นเมืองแห่งผ้าย้อมครามกันเลยเด้อ แล้วไหนๆ มาถึงถิ่นทั้งที จะไม่มีโอกาสไปเรียนรู้ลองย้อมครามกันดูเลยมันก็ไม่ใช่อ่ะ
ถ้าอยากลองไปเวิร์คช็อปเล็ก ๆ ทำผ้าย้อมครามด้วยฝีมือตัวเองดูละก็ เราขอแนะนำร้านครามสกล ที่นี่เป็นร้านขายข้าวของเครื่องใช้จากผ้าย้อมครามในรูปแบบทันสมัยน่าซื้อหา
แล้วยังเปิดโอกาสให้เราได้ลงมือเวิร์คช็อปผ้าย้อมครามกันได้ด้วยตัวเองอีกด้วยนะ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกทำอะไร แต่ถ้าไม่อยากมือเลอะ แวะไปช้อปอย่างเดียวก็ยังได้นะ
เตรียมเงินไปให้พอก็แล้วกัน ขอบอกเลยว่าตอนนี่ไปอยากกวาดลงตะกร้าซื้อกลับมาทุกอย่างจ้า ดีนะว่ามีเงินไม่พอ!! อ้อ … เสริมให้ว่าถ้าเผื่อยังช้อปไม่สาแก่ใจ
สกลนครเค้ามีถนนผ้าครามให้เดินช้อปกันได้ทุกวันหยุดและเสาร์ – อาทิตย์นะจ๊ะ ขอบอก
เลยว่าของล่อตาล่อใจเพียบ กำเงินให้แน่นเข้าไว้แล้วทำใจให้หนักแน่นนะ ไม่งั้นอ่ะ
รับรองว่าหมดตัว!
ทะเลสาบหนองหาน หรือ หนองหานหลวง
ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และใหญ่ที่สุดของโซนอีสาน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยเพราะมีเนื้อที่ถึง 77,000 ไร่
สันนิษฐานว่าหนองหานแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวลงของเปลือกโลกที่โดนกัดเซาะจนเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง และกลายเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา
ถึงเป็นทำเลสาบน้ำจืดก็ไม่น้อยหน้าใครนะ เพราะเค้าก็มีเกาะเหมือนกันจ้า ในหนองหานมีเกาะอยู่ประมาณ 30 เกาะ และเกาะที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะดอนสวรรค
์ซึ่งมีพื้นที่กว่า 100 ไร่! แถมบนเกาะมีศาสนสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือตั้งอยู่ด้วยนะ อยากรู้ว่าเป็นอะไรยังไง ต้องไปดูด้วยตาเด้อออออ
งานแห่ดาว
ใครชอบแสงสี ขอแนะนำงานนี้ไว้ในอ้อมใจเลยจ้า เพราะเป็นงานแห่ดาวที่ประดับไฟกับได้พรึ่บพรั่บดีแท้ และเป็นงานแห่ดาวคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดของไทยด้วยนะ
โดยจะจัดขึ้นที่หมู่บ้านท่าแร่ ซึ่งเป็นชุมชนคนนับถือคริสต์ที่เรียกว่าใหญ่ระดับท็อปของบ้านเราเลยละ งานนี้จะจัดขึ้นทุกวันที่ 23 – 24 ธันวาคมเด้อ โดยจะมีขบวนรถแห่ที่ตกแต่ง
อย่างสวยงาม รวมถึงมีขบวนแห่ดาวที่ชาวบ้านประดิษฐ์ขึ้นเองบริเวณรอบโบสถ์คริสต์
มีละครเวที มีเวิร์คช็อปลองประดิษฐ์ดาวมือถือ บ้านเรือนในหมู่บ้านก็จะทำการประดับ
ตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับ แล้วยังมีการออกร้านขายของกินของใช้ให้ได้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับมากันด้วยนะ ดีอ่ะ ปีนี้ไปเลยนะคะ ไม่ต้องรออออ
หมู่บ้านท่าแร่
เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบหนองหานเท่าไหร่นัก หมู่บ้านนี้เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดของไทย
รอบหมู่บ้านยังมีความน่าสนใจเพราะมีตึกโบราณซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส
ผสมเวียดนามที่ดูอินเต้ออออินเตอร์สวยแปลกตา ชาวบ้านรุ่นแรกเริ่มของที่นี่ส่วนใหญ่
อพยพมาจากประเทศเวียดนามจึงมีการนำวัฒนธรรมติดตัวมาทั้งที่อยู่อาศัย ศาสนา
และประเพณี ที่โด่งดังคืองานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาสของที่นี่เค้านี่ละ ตื่นตา ตื่นใจ
และควรไปดูให้ได้ซักครั้งนะเอ้า
อาสนวิหารอัครเทวดามิคาแอล
เป็นโบสถ์คริสต์ขนาดใหญ่สีขาวสะอาดตาและมีรูปร่างลักษณะไม่ซ้ำใคร สำหรับเราถือว่าโบสถ์นี้หน้าตาทันสมัยแปลกตาเลยทีเดียวละ ว่ากันว่าเค้าพยายามสร้างให้มองดู
คล้ายรูปเรือเพื่อสื่อให้เห็นถึงพาหนะที่ใช้ในการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งมีการย้ายรกรากมาจากทางเวียดนามนั่นเอง โบสถ์แห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในหมู่บ้านท่าแร่
และในช่วงวันคริสต์มาสของทุกปี จะมีการตกแต่งประดับประดาบริเวณโบสถ์ด้วยไฟ
หลากหลายสี รวมถึงมีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นในหมู่บ้านท่าแร่และบริเวณรอบ ๆ
แถบนี้นี่ละ ถ้าไปสกลนครเมื่อไหร่อย่าลืมแวะไปเช็คอินกันนะ ถ้าพลาดจะมาหาว่าเราไม่เตือนบ่ได้เด้อออ