Ningxia Night Market หาของกิน ภาค 2
Ningxia Night Market หาของกิน ภาค 2 จากบทความเดิม ๆ ที่เราได้พาทุกคน ไปดูของกิน ที่ประเทศไต้หวันกันแล้ว ใครที่ไปเที่ยวกัน ก็อย่าลืมตามไปกินกันนะคะ
วันนี้เราเลยพาทุก ๆ คน มาดูของกินที่ตลาดแห่งนี้เพิ่มเติม ขอบอกเลย ว่าต้องเก็บให้ครบ ไม่งั้นอาจจะพลาดของอร่อย ๆ และถูกปากกันได้ ว่าแล้ว ตามไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

ไก่ทอดไซส์ยักษ์ FUN SUN G
มาถึงแดนต้นกำเนิดไก่ทอดชิ้นยักษ์ ก็ต้องขอลองสักหน่อย ซึ่งเราขอลองชิมร้านอื่นที่
ไม่ใช่ HOT STAR กันบ้างค่ะ เห็นว่าคนซื้อเยอะ แถมมีทีวีโชว์ว่าเคยไปออกรายการมา
พร้อมด้วยลายเซ็นบนป้ายร้าน สมาชิกหนึ่งในแก๊งค์เราได้เอ่ยวาจาว่าจะมากินไก่ทอดชิ้นยักษ์ไต้หวันให้ได้ ก็เลยพุ่งตัวใส่ร้านแบบไม่คิดไปเลยค่ะ
รสชาติ : กัดไปคำแรกก็ต้องร้อง เพราะว่าร้อนค่ะ พ่อค้าเพิ่งทอดมาให้เลย เนื้ออกไก่ชิ้นยักษ์ที่ถูกชุบแป้งทอดจนกรอบ แต่ยังคงความชุ่มฉ่ำของอกไก่ไว้ได้เป็นอย่างดี
โรยด้วยผงพริกเพิ่มความเผ็ด ซึ่งจริงๆแล้วมีให้เลือกหลายรสชาติ แต่เพื่อให้เข้ากับความฮอตของแก๊งค์เราก็เลยเลือกรสเผ็ดมา ผลก็คือเผ็ดมากจ้าแม่ มันคือรสพริกป่นดี ๆ นี่เอง
แต่ก็เข้ากันได้ดีกับอกไก่ใช้ได้เลยค่ะ
ราคา : 75 NTD (ประมาณ 75บาท)
คะแนน : 7/10
ข้าวหน้าหมู 3 ชั้นพะโล้
พอกระเพาะของคาวเริ่มติด เราก็ต่อกันด้วยเมนูข้าวหน้าหมูพะโล้ ที่เกิดจากความอยากกินพะโล้ของคนในแก๊งค์ ก็จัดการนั่งโต๊ะ สั่งกันโดยพร้อมเพียง
ซึ่งร้านก็จะเป็นร้านรถเข็นแบบบ้านเราเลยค่ะ พร้อมหลากหลายเมนูที่ทำให้เราเห็นกัน
ตรงหน้าเลย ชนิดที่ว่านั่งรอข้าวหน้าหมูพะโล้ไป ตอนเสิร์ฟนี่เราเห็นความดึ๋งของชั้น
ไขมันหมูเลย มันช่างเย้ายวนจริง ๆ ค่ะ
รสชาติ : เข้าสู่ตอนชิม มาเริ่มกันที่ข้าวก่อน ข้าวของที่นี่จะเหมือนข้าวของญี่ปุ่นคือเป็นเม็ดสั้น ๆ ป้อม ๆ เหนียวหนึบเข้ากันได้ดีกับน้ำพะโล้ ส่วนขาหมู 3 ชั้น
นั้นจะมีไม้เสียบมาตรงกลางเพื่อไม่ให้หมู 3 ชั้นของเราหลุดจากกันในแต่ละชั้น เรื่องความเข้มของเครื่องพะโล้ ครบเครื่องเลยค่ะ ตุ๋นจนเข้าเนื้อ กัดไปคำแรกฟินแล้ว ซึ่ง
รสชาติอาจจะอ่อนกว่าพะโล้บ้านเรานิดหน่อย แต่ความหอมของเครื่องเทศนี่ยืนหนึ่งเลยค่ะ
ราคา : 50 NTD (ประมาณ 50 บาท)
คะแนน : 8/10
บัวลอยยักษ์
มาไต้หวันนอกจากต้องได้กินชาไข่มุกแล้ว ก็ต้องบัวลอยนี่แหละค่ะ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านขึ้นชื่อของตลาดหนิงเซี่ยเลย เราตามรีวิวมา โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะค่ะ
ต่อไม่นานก็ได้กิน ระหว่างที่ยืนรอเราก็ได้เห็นขนาดของบัวลอยที่นี่ คือใหญ่มาก กับลอยตุ๊บป่องรอเรากินอยู่ในหม้อจ้า โดยเราสั่งเป็นบัวลอยแบบดั้งเดิม คือไม่มีไส้
แต่คลุกกับงาดำและถั่วแทน เพราะเห็นว่าป้ายหน้าร้านเขาติดดาวให้อันนี้ จะว่าไปก็คล้าย ๆ กับโมจิของญี่ปุ่นเลยค่ะ
รสชาติ : ก่อนทานแนะนำให้คลุกกับผงถั่วและงาก่อน เพื่อเพิ่มรสชาติค่ะ ซึ่งความเด็ดของมันอยู่ที่แป้งอันแสนจะเหนียวนุ่ม แบบกินเพลินมาก ๆ ค่ะ เข้ากันได้ดี
กับถั่วและงาดำที่ช่วยเพิ่มความหอม บวกกับความหวานเล็ก ๆ จากน้ำตาล เป็นขนมที่กินเพลินๆหลังของคาวได้เลย ยิ่งถ้าทานในช่วงอากาศเย็น ๆ ก็จะยิ่งอร่อยขึ้นกว่าเดิมอีกค่ะ
ราคา : 45 NTD (ประมาณ 45 บาท)
คะแนน : 9/10
ไก่ทรงเครื่อง
บอกแล้วว่าที่นี่คือสวรรค์ของสายกินค่ะ เพราะมีแต่ของกินสตรีทฟู๊ดขึ้นชื่อของไต้หวันล้วนๆค่ะ ซึ่งไก่ทรงเครื่องก็อยู่ในนั้นด้วย เราเลยต้องขอลองชิมเมนูนี้กันสักหน่อย
โดยเป็นการเอาเนื้อไก่ไปหมักแล้วพันด้วนหนังไก่ จากนั้นก็นำไปอบเอาความมันออก แล้วก็มาย่างอีกครั้งเพื่อให้หนังกรอบค่ะ
รสชาติ : เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยกินมาก่อน แค่คำแรกก็สัมผัสได้ถึงความกรอบ
ของหนังไก่ที่ถูกอบ และย่างมาจนกรอบ ส่วนด้านในก็คือเนื้อไก่ที่ถูกหมักด้วยเครื่องเทศ
จนได้รสชาติ ย่างได้สุกกำลังดีเพราะยังมีความฉ่ำจากเนื้อไก่ เป็นอีกเมนูที่ต้องชิมเมื่อมาเที่ยวไต้หวันจริงค่ะ
ราคา : 45 NTD (ประมาณ 45 บาท)
คะแนน : 8/10
มันหวานทอด
กินของหนัก ๆ กันไปหลายอย่างแล้ว แวะมาพักด้วยของกินเล่นกันต่อ ซึ่งร้านนี้เราเห็นคนต่อแถวเยอะดี เลยคิดว่าน่าจะเป็นร้านเด็ดของหนิงเซี่ย เป็นร้านมันหวานทอด
ที่ป้ายเขาบอกว่าอันดับ 1 ในไต้หวัน ก็เลยยิ่งอยากลองว่าจะอร่อยขนาดไหน ซึ่งจริง ๆ แล้วลักษณะเหมือนขนมไข่เต่าบ้านเรามากๆเลยค่ะ แค่ยืนรอก็ได้กลิ่นหอมของมันหวานลอย
มาแล้ว
รสชาติ : กัดคำแรกก็คือกรอบมากจ้า กรอบแบบได้ยินเสียงกร๊อบๆเลย ถึงแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายๆไข่เต่าบ้านเรา แต่ของที่นี่แป้งจะมีความบางและกรอบมากกว่าค่ะ
ทำให้กินเพลินมากๆเลย บวกกับความหอมจากมันหวานเล็กๆ เลยทำให้มันหวานทอดของที่นี่ยิ่งเคี้ยวเพลินเข้าไปใหญ่ ใครที่อยากหาขนมกรุบกรอบปิดท้ายมื้ออาหาร
หรือจะซื้อทานเล่นก็แนะนำเลยค่ะ
ราคา : 50 NTD (ประมาณ 50 บาท)
คะแนน : 8/10